This PDF 1.4 document has been generated by PScript5.dll Version 5.2.2 / Acrobat Distiller 8.1.0 (Windows), and has been sent on pdf-archive.com on 14/10/2017 at 06:58, from IP address 223.206.x.x.
The current document download page has been viewed 1381 times.
File size: 1.16 MB (84 pages).
Privacy: public file
รูทันราชวงศจักรี
บทนํา
ประเทศไทยปกครองดวยระบบศักดินามานานหลายรอยป พวกเจาศักดินาจะครองบานครองเมือง ตั้งตนเปนเจาของ
ที่ดินทั้งที่ตนไมเคยออกแรงถางปาพันไร มีอํานาจเปนเจาเหนือหัวเหนือชีวิตผูคนในบานเมือง ดังที่พวกเรารูจักกัน
ในนามพระมหากษัตริย, พระราชา, พระเจาแผนดิน, พระเจาอยูหัว ซึ่งชื่อของเขาไดบงถึงความยิ่งใหญกับฟาอยูใน
ตัว ขาราชบริพารและไพรฟาประชาราษฎรตางตองทํามาหากินเปนชาวนาชาวไร ไมมีใครเปนอิสระ ตองเปนไพร
ติดที่ดินสังกัดเจาศักดินาคนใดคนหนึ่ง ปหนึ่งๆไพรชายที่มีอายุ 18 ปขึ้นไปตองถูกเกณฑแรงงานถึง 6 เดือน คือเขา
เดือนเวนเดือนโดยไมมีคาตอบแทนแมแตสตางคแดงเดียว ซ้ํายังตองนําขาวไปกินเอง ทุกคนตองเปนขารับใช
แรงงาน ไปรบ ไปทําอะไรตอมิอะไร แมแตไปตายตามที่เจาศักดินาสั่ง ตองทําเชนนี้จนถึงอายุ 60 ปจึงจะเปนไท
ชีวิตไพรจึงเหมือนวัวควายที่พูดได จะอยูจะตายขึ้นอยูกับคําสั่งของเจานาย หากเจาศักดินายกที่ดินใหใคร ไพรติด
ที่ดินนั้นก็ตองไปขึ้นกับเจาศักดินาคนใหมทันที นอกจากนั้นการเพาะปลูกของไพรยังตองถูกเรียกเก็บภาษี ถูกรีด
อากรในรูปของเงินและพืชผลอีกหลายประเภท พวกเขาตองมีชีวิตอยูอยางยากแคน ตองทํางานหนักหนวงไมเพียง
เพื่อเลี้ยงตนเองและครอบครัว แตยังตองเลี้ยงเจาศักดินาของตน แทที่จริงชีวิตของชาวไทยทุกคนมีไวเพื่อเลี้ยงดูเจา
ศักดินาทั้งสิ้น ใครที่ทนไมไดก็จะหนีไปอยูปาอยูดง ไปใหไกลๆพนจากเงื้อมมือการปกครองของพวกเขา คน
ประเภทนี้เจาศักดินาจะไมรับรองความเปนคน จะไมมีสิทธิฟองรอง รองเรียนตอบานเมือง ดังไดตราไวในกฎหมาย
ตั้งแตกรุงศรีอยุธยาและถอดแบบเปนกฎหมายตราสามดวงในยุคกรุงรัตนโกสินทร หากคนพวกนี้ถูกคนพบจะถูก
สักขอมือกลายเปนไพรหลวงคือขารับใชของเจาแผนดินทันที
ชีวิตของพวกศักดินาจํานวนหยิบมือหนึ่งนี้อยูกันอยางฟุงเฟอหรูหรา กินทิ้งกินขวาง เสพสุขโดยไมออกแรงทํางาน
ใดๆทั้งสิ้น ซ้ํายังดูถูกการใชแรงงานเปนสิ่งต่ําตอยหยาบชา ขณะที่พวกเขาเฝาเสพเมถุนเชายันค่ําโดยไมใยดีวาเปน
ลูกเตาและเมียใคร แลวกลับยกยองสรรเสริญหญิงนั้นวามีบุญวาสนาสูงสงจึงไดบําเรอเจาศักดินา หลายยุคหลาย
แผนดินที่ผานมา พวกเขายังคงเสวยสุขบนน้ําตา เลือดเนื้อและความขมขื่นของไพรฟาชาวไทยทั้งหลาย
การที่ระบบศักดินายืนยงอยูไดยาวนาน สาเหตุที่สําคัญอันหนึ่งคือ การสรางความนิยมชมชอบใหเกิดขึ้นโดยอาศัย
บรรดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากสิ่งที่ผูคนศรัทธาเชื่อถืออยูแลว เชน แอบอิงพระพุทธศาสนาดวยการโออวดวา กษัตริยคือ
พระโพธิสัตวซึ่งจะไดตรัสรูเปนพระพุทธเจา1 เพื่อหลอกลวงผูอื่นใหเขาใจวา การปกครองของกษัตริยนั้นชอบ
ธรรมและทั้งๆที่ไมมีขอความใดในพระไตรปฎกทั้ง 84,000 พระธรรมขันธจะรับรองวากษัตริยคือพระโพธิสัตวเลย
พวกเขาก็ยังยืนยันเรียกกษัตริยวา “พระพุทธเจาอยูหัว” ซึ่งเปนพระนามอันมีไวเฉพาะพระพุทธองค และเรียกลูก
กษัตริยวา “หนอพุทธางกูร” อันหมายถึง ผูที่จะไดเปนพระพุทธเจาในอนาคตขางหนาซึ่งเปนการนําเอาพระนามของ
พระศาสดาอันประเสริฐที่สุดองคหนึ่งมาใชโดยปราศจากความเคารพ เชน รัชกาลที่ 1 ซึ่งพวกเจาศักดินารุน “ร.ศ.
200” พยายามจะยกขึ้นเปนมหาราช ถึงกับไดรับคําสรรเสริญจากศักดินาดวยกันที่แตงหนังสือเทศนาจุลยุทธการวงศ
วา “พระองคเปนพงศพุทธางกูรทรงบําเพ็ญพุทธการจริยา...”
นอกจากแอบอิงพระพุทธศาสนาแลว ยังแอบอิงความเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ยึดถือกันมานานไดอยางวิจิตรพิสดารนั่น
ก็คือ การที่พวกศักดินาถือวากษัตริยเปนเทวดาตั้งแตขณะที่มีชีวิตอยู จึงสรางราชาศัพทซึ่งมีไวใชเฉพาะกับกษัตริย
และราชนิกุลทั้งหลาย และมีการตั้งกฎเกณฑตางๆอันทําใหแลดูวากษัตริยสูงสงกวามนุษยทั่วไป เชน หามมองดู
กษัตริย โดยอางวาถามนุษยมองดูพระเจาก็เหมือนมองพระอาทิตย กษัตริยจะไมยอมใหเทาเหยียบแผนดินโดยไมใส
รองเทา โดยอางวาเทาของเทวดายอมรอน ถาเหยียบแผนดินแลวไฟจะไหมโลก2 นอกจากนี้ยังหามแตะตองกษัตริย3
ผูที่มีสิทธิ์ถูกตองตัวกษัตริยไดจึงมีแตชางตัดผมและนางบําเรอของกษัตริยเทานั้น
ไมเพียงเทานี้เจาศักดินายังแตงตํานานโกหกพกลม โดยอางกฎแหงกรรมมาบิดเบือนวา พวกตนมีบุญญาธิการสูงสง
หาผูใดเปรียบเปรยมิได ชาตินี้จึงเกิดมาไดเปนเจาแผนดิน ลูกทานหลานเธอจึงไดเสวยสุขบรมสุข มีอํานาจเหนือหัว
ผูคนทั้งหลาย แทที่จริงพระพุทธองคไมเคยตรัสเชนนั้นเลย ดังจะเห็นไดจากยักคัญสูตรที่พระพุทธองคทรงย้ําวา
คนเราแตกตางกันเพราะการกระทําหาใชชาติกําเนิด ในพระสูตรดังกลาวไดกลาวถึงกําเนิดของกษัตริยโดยไม
ยอมรับเลยวา กษัตริยนั้นมีบุญมากกวาผูอื่นแตอยางใด
1. กรมพระยาดํารงราชานุภาพ “เรื่องการปกครองของประเทศสยามโบราณ” หนังสืออานประกอบคําบรรยายวิชาพื้นฐานอารยธรรมไทย
(มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร) หนา 54
2. ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช ”สถาบันกษัตริย” (มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร, 2523) หนา 14-23
3. เรื่องเดิม หนา 14
ความในใจของผูเขียน
ผูเขียนขอเรียนชี้แจงไวเปนปฐม ณ ที่นี้วา จุดเริ่มตนของการเขียน หาไดมีเจตนาที่จะลบหลูพระบรมเดชานุภาพของ
องค พ ระมหากษั ต ริ ย ร าชวงศ จั ก รี แ ต อ ย า งใดไม หากแต อ ยู บ นพื้ น ฐานความต อ งการเป ด เผยข อ เท็ จ จริ ง ทาง
ประวัติศาสตรที่ผูเขียนไดศึกษาคนควาดวยความสํานึกที่รุมรอน และตระหนักตอหนาที่ของนักประวัติศาสตรที่
เคารพความจริงคนหนึ่ง และดวยเหตุผลที่วา “ขอเท็จจริง” เปนสัจธรรมที่มีความเที่ยงตรง มันจึงไดปรากฏคุณคา
และพระเกียรติอยางตรงไปตรงมาและแจมชัดในตัวมันเอง ดังนั้นความกระทบกระเทือนอันใดที่มีจึงหาใชเจตนาใน
ขอเขียนของขาพเจาแตอยางใดไม แตเปนเพราะขอเท็จจริงในประวัติศาสตรนั้นเอง
ขอเท็จจริงเหลานี้เปนแสงสวางอันมีคุณคาและดูเหมือนจะมีคุณคายิ่งโดยเฉพาะในยุค 200 ปแหงกรุงรัตนโกสินทร
ที่ผูคนสวนหนึ่งพยายามจะเชิดชูพระเกียรติกษัตริยไทยใหสูงสงเกินจริง ราวกับหวั่นเกรงวา ขอเท็จจริงอันเลวราย
ของราชวงศจักรีที่ปกปดกันมาชานานจะรั่วหลุดไปถึงสายตาปวงชน อันจะนําไปสูความเสื่อมศรัทธาครั้งใหญและ
จะยังความวิบัติแกราชวงศจักรี โดยที่แมแตสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆก็ไมอาจคุมครองได
ทานผูอานที่เคารพ ประวัติศาสตรไทยที่เราทานเลาเรียนกันมามิไดสะทอนความเปนจริงแหงการดํารงชีพของคน
ไทยและความเปนจริงของเหตุการณในแผนดินอยางตรงไปตรงมา เนื้อหาสวนใหญกลับเปนเรื่องบิดเบือนและปดหู
ปดตาไมใหผูคนรูความจริง ประวัติศาสตรไทยกลายเปนตํานานของการสืบสันตติวงศ เปนการยกยองกษัตริยใหผิด
มนุษยธรรมดา ทําใหผูคนหลงเชื่อวา กษัตริยคือเทพเจาอยูเหนือคําตําหนิใดๆของมนุษย เมื่อกลาวถึงกษัตริยจะมีแต
สวนดีงามและการยกยองสรรเสริญเทานั้น
ผูเขียนมีความเห็นอยางบริสุทธิ์ใจวา กิจวัตรของกษัตริยและราชนิกุลทั้งหลายก็เฉกเชนคนสามัญ ที่ประกอบคละกัน
ไปดวยสวนที่ดีงามควรแกการสรรเสริญ กับสวนที่เลวรายควรแกการตําหนิวิจารณ ฉะนั้นการที่มีแตสรรเสริญฝาย
เดียวและหามเอยถึงสวนที่เสียแมแตนอยเพื่อการปรับปรุงสรางสรรคจึงเปนหนทางแหงการเสื่อมถอยมากกวาเปน
เรื่องดี โดยเฉพาะในยุคปจจุบันที่การศึกษา ความรับรูของมนุษยไดกาวไปไกลมาก อีกทั้งสังคมก็มีสิทธิเสรีภาพ ขอ
ยึ ด ปฏิ บั ติ เ กี่ ย วกั บ กษั ต ริ ย จึ ง เป น เรื่ อ งล า หลั ง อย า งยิ่ ง เพราะการศึ ก ษาค น คว า ทํ า ให เ ราทราบข อ เท็ จ จริ ง ทาง
ประวัติศาสตรวาใครถูกผิด ใครดีชั่ว อีกประการหนึ่งปุถุชนวิสัยมีความอยากรูอยากเห็น ยิ่งบิดเบือนมากเสียงซุบซิบ
ก็จะหนาหูขึ้น ดังเชนในยุคปจจุบันที่ผูคนวงการตางๆนําเรื่องในราชสํานักมาเลาลือจนกลายเปนเรื่องตลกหลัง
อาหารอยางกวางขวาง การโปปดมดเท็จหลอกลวงผูคนเพื่อหวังกดหัวประชาชนใหรับใชพวกตนอยางงมงายดวย
ความสัตยซื่อมานับรอยๆปนั้น มาบัดนี้จะเปนหนาที่ของประวัติศาสตรที่จะไดเปดใหเห็นโฉมหนาอันแทจริงของ
เจาศักดินาไทย โดยเฉพาะกษัตริยราชวงศจักรีใหประจักษชัดตอประชาชนไทย
ณ ที่นี้ผูเขียนใครขอขอบคุณนักคิดนักเขียน นักโบราณคดีและนักประวัติศาสตรทั้งคนไทยและคนตางชาติที่กลา
หาญและซื่อสัตยตอขอเท็จจริง พวกเขาไดเขียนบันทึกและเผยโฉมหนาที่แทจริงของประวัติศาสตรออกมา จน
ผูเขียนสามารถนํามาเรียบเรียงเปนหนังสือเลมนี้ ผูเขียนมีความเชื่ออยางเต็มเปยมวา “ความเปนจริง ยอมลอยขึ้น
เหนือน้ํา เหนือฟาเสมอ”
สารบัญ
พระเจาตาก : กษัตริยผูกอบกูบานเมือง
รัชกาลที่ 1 : ผูสถาปนาราชวงศจักรีดวยชีวิตของกษัตริยผูกูชาติ
รัชกาลที่ 2 : กษัตริยกวีผูอื้อฉาวเรื่องโลกีย
รัชกาลที่ 3 : กษัตริยผูฆาพระราชบิดา
รัชกาลที่ 4 : กษัตริยอดีตภิกษุ เฒาหัวงูผูไมอิ่มในกามคุณ
รัชกาลที่ 5 : กษัตริยผูพัฒนาประเทศเพียงเพื่อค้ําบัลลังก
รัชกาลที่ 6 : กษัตริยผูหลงระเริงอยูกับวรรณกรรมและการละคร
รัชกาลที่ 7 : กษัตริยผูไมอาจรั้งประชาธิปไตย
รัชกาลที่ 8 : กษัตริยหนุม ผูเปนเหยื่อของความทะเยอทะยาน
รัชกาลที่ 9 : คนบาปในคราบนักบุญ
บทความพิเศษ : โพธิอธิษฐาน
บทความพิเศษ : ครอบครัวคุณธรรม
หนาที่
1
3
8
9
10
17
22
25
28
39
74
75
พระเจาตาก : กษัตริยผูกอบกูบ านเมือง
หลังกรุงศรีอยุธยาเสียกรุงแกพมาในป 2310 พระเจาตากสินไดรวบรวมผูคนและนักรบตอสูขับไลพมาอยางเด็ดเดี่ยว
จนกอบกูบานเมืองไดสําเร็จ จากนั้นก็ใชเวลาอีก 15 ปกรําศึกสงครามรวบรวมหัวเมืองตางๆที่กระจัดกระจาย ขณะ
เดียวก็ตองทําศึกใหญกับพมาหลายครั้ง จนสรางความเปนปกแผนแกบานเมือง พรอมกับทํานุบํารุงพระพุทธศาสนา
อยางขนานใหญ พระองคเปนพุทธบริษัทที่ดี เมื่อวางเวนจากราชการแผนดินพระองคจะไปทรงศีล บําเพ็ญพระ
กรรมฐานที่วัดบางยี่เรือเปนนิจ1
ตอมาในป 2323 ทางเมืองเขมรเกิดกบฏขึ้นโดยการยุยง แทรกแซงของญวนฝายองเชียงสือ เปนการหากําลังและ
เสบียงขององเชียงสือ เพื่อทําสงครามแยงชิงความเปนใหญกับญวนฝายราชวงศไตเชิง (เล) ขณะเดียวกันในกรุง
ธนบุรีเอง องเชียงชุน (พระยาราชาเศรษฐี) ซึ่งเขามาสวามิภักดิ์ตอพระเจาตาก ไดกอกบฏขึ้นในเดือนอายป 2324
หลังจากทําการปราบปรามกบฏสําเร็จในเดือนยี่ พระเจาตากไดพิจารณาเหตุการณตางๆ และทรงตัดสินพระทัยให
กองทัพไทยยกไปตีเมืองเขมรและไปรับมือญวนใหเด็ดขาดลงไป จึงทรงแตงตั้งสมเด็จเจาฟากรมขุนอินทรพิทักษ
พระมหาอุปราช องครัชทายาทเปนแมทัพใหญ2 เจาพระยาจักรี (ดวง)3 เจาพระยานครสวรรค เจาพระยาสาศรี (บุญ
มา นองชายเจาพระยาจักรี) เปนแมทัพรองๆลงมา ในครั้งนั้นแมทัพใหญพยายามรุดหนาไปตามพระราชโองการ แต
ติดขัดที่แมทัพรองบางนายพยายามยับยั้ง เพื่อคอยฟงเหตุการณทางกรุงธนบุรี สวนทางญวนซึ่งไมตองการเผชิญศึก
2 ดาน ทั้งไทยและญวนราชวงศเล ไดแตงทูตมาเจรจาลับกับแมทัพรองฝายไทย ทางแมทัพรองตกลงจะชวยเหลืออง
เชียงสือในอนาคต หากงานที่เตรียมไวสําเร็จทางญวนไดทําตามสัญญาดวยการลอมกองทัพมหาอุปราชองครัช
ทายาทอยางหนาแนน เปดโอกาสใหแมทัพรองฝายไทยยกกําลังกลับกรุงธนบุรี4
เหตุการณในกรุงธนบุรี เกิดมีผูยุยงชาวกรุงเกาใหเกิดความเขาใจผิดในพระเจาตากและชักชวนกบฏยอยๆขึ้น
จากนั้นก็ยกพลมาลอมยิงพระนคร ขณะเดียวกันภายในกรุงธนบุรีเองก็มีคนกอจลาจลขึ้นรับกับกบฏ พระเจาตาก
ทรงบัญชาการรบจนถึงรุงเชา จึงทราบวาพวกกบฏเปนคนไทยดวยกันทั้งสิ้นก็สลดสังเวชใจ เพราะพระทัยทรงตั้งอยู
ในธรรมปฏิบัติมุงโพธิญาณเปนสําคัญ และทรงเห็นวาหากการเปลี่ยนแปลงอํานาจนั้นไมกอความเดือดรอนแกชาว
ไทย พระองคจะทรงหลีกทางใหพวกกบฏจึงทูลใหออกบวชสะเดาะเคราะหสัก 3 เดือนแลวคอยกลับสูราชบัลลังก
ขณะนั้นพระยาสรรคบุรี พระยารามัญวงศ ขาราชการชั้นผูใหญที่ยังอยูในกรุงและมีความภักดีตอพระเจาตากเห็น
เปนการคับขัน จําตองผอนคลายไปตามสถานการณ
หลังจากบวชได 12 วัน พระยาสุริยอภัยหลานเจาพระยาจักรียกทัพมาโดยมิไดรับพระบรมราชานุญาต เกิดการรบพุง
กับกําลังของกรุงธนบุรีและไดรับชัยชนะ จากนั้นอีก 3 วันคือ เขาวันที่ 6 เมษายน เจาพระยาจักรี (ดวง) ซึ่งเลี่ยงทัพ
จากสงครามเขมรมาถึงกรุงธนบุรี ไดมีการสอบถามความเห็นกัน ขาราชการชั้นผูใหญที่ยังจงรักภักดีและเชื่อใน
ปรีชาสามารถของพระเจาตากตางยืนยันใหอัญเชิญพระองคมาครองราชยตอไป แตขาราชการเหลานี้กลับถูกคุมตัว
ไปประหารชีวิต เชน เจาพระยานครราชสีมา (บุญคง ตนตระกูลกาญจนาคม), พระยาสวรรค (ตนตระกูลแพงสภา),
พระยาพิชัยดาบหัก (ตนตระกูลพิชัยกุลและวิชัยขัทคะ), พระยารามัญวงศ (ตนตระกูลศรีเพ็ญ) เปนตน จํานวนกวา
50 นาย
1
พระเจาตากก็ถูกปลงพระชนมทั้งที่ทรงเพศพระภิกษุในวันนั้นเอง ณ พระวิหารที่ประทับในวัดแจงและอัญเชิญพระ
ศพไปฝงที่วัดอินทรารามบางยี่เรือ ใกลตลาดพลู คลองบางหลวง สวนราชวงศที่เปนชายและเจริญวัยทั้งหมดถูกจับ
ปลงพระชนมหมด นอกนั้นใหถอดพระยศ แมกระทั่งสมเด็จพระราชินีและสมเด็จพระนานาง เปนการถอดอยางที่
ไมเคยมีมา5 เมื่อขาวนี้ทราบไปถึงเจาพระยาอินทวงศา อัครมหาเสนาบดีฝายกลาโหมซึ่งตั้งบัญชาการทัพอยูที่ปาก
พระใกลเมืองถลางก็ไดฆาตัวตายตามเสด็จ เพราะไมยอมเปนขาคนอื่น
เมื่อขาวการปลงพระชนมพระเจาตากแพรออกไป เมืองตะนาวศรีและเมืองมะริดอันเปนเมืองสําคัญทางตะวันตกก็
ตกไปเปนของพมาในปนั้นเอง และเนื่องจากพันธะสัญญาที่ทําไวกับญวนอยางลับๆ ไทยจึงตองชวยญวนฝายอง
เชียงสือรบกับญวนฝายราชวงศเลถึง 2 ครั้ง รวมทั้งการชวยอาวุธยุทธภัณฑอีกนับไมถวน พอครั้นญวนฝายอง
เชียงสือมีกําลังกลาแข็งขึ้น ไทยกลับตองเสียเมืองพุทไธมาศและผลประโยชนอีกมากมายแกญวนไป6
ดวยความเหิมเกริมทะยานอยากไดอํานาจสูงสุด เจาพระยาจักรีจึงเปนกบฏ ทรยศตอพระเจาตาก กษัตริยผูกูชาติไทย
กระทําการเขนฆาลางโคตรอยางโหดเหี้ยม อํามหิตที่สุด ซ้ํายังเสริมแตงใสรายพระเจาตากวาวิปลาสบาง7 กระทําการ
มิบังควรแกสงฆบาง วิกลจริตในการบริหารราชการบาง8 จากนั้นก็ตั้งตนเปนกษัตริยองคใหม และเริ่มสราง
พระราชวังใหมที่ฟากตะวันออกของแมน้ําเจาพระยาอันเปนจุดเริ่มตนของการสถาปนาราชวงศใหม “ราชวงศจักรี”
และดวยความโหดรายบนเลือดเนื้อและชีวิตของกษัตริยในเพศพระภิกษุ กษัตริยองคตอๆมาในราชวงศจักรีจึงเต็ม
ไปดวยความบาดหมาง แกงแยงชิงราชสมบัติกันทุกรัชกาล ลูกฆาพอ พี่ฆานอง นองฆาพี่อยางไมวางเวนแมกระทั่ง
ในรัชกาลองคปจจุบัน
1. กรมพระยาดํารงราชานุภาพ ประชุมพงศาวดารเลม 3 เรื่องไทยรบพมา
2. ตามพงศาวดารกลาววา “ใหพระยาจักรีเปนแมทัพใหญ” (ตามประเพณีสงคราม กษัตริยจะเปนจอมทัพและจะแตงตั้งผูที่ไววางพระทัย
ที่สุดเปนแมทัพใหญ ซึ่งนาจะเปนองครัชทายาทมากกวาพระยาจักรี...ผูเขียน)
3. ตามพงศาวดารบางฉบับอางวาไดยศเปน “เจาพระยามหากษัตริยศึก” ชื่อนี้เกิดเปนปญหาขัดแยงกันจนถึงปจจุบัน
4. นาย ตันหยง ทหารปนใหญ พงศาวดารญวน เลม 2 หนา 378-382
5. กรมศิลปากร หนังสือไทยตองจํา และลําดับสกุลเกา ภาค 4 พิมพครั้งที่ 2
6. นาย ตันหยง ทหารปนใหญ พงศาวดารญวนเลม 2 หนา 294, 518 และกรมศิลปากร หนังสือไทยตองจํา พิมพครั้งที่ 2 หนา 113
7. สมเด็จกรมพระยาดํารงราชานุภาพ ประชุมพงศาวดาร เลม 3 เรื่องไทยรบพมา
8. ประเด็นวิกลจริต อาจารย ขจร สุขพานิช ไดเคยสัมภาษณในวิทยาสารปที่ 22 ฉบับที่ 32, 22 สิงหาคม 2514 กลาววา “มีหลักฐานเปน
เอกสารภาษาฝรั่งเศส ซึ่งบาทหลวงในสมัยนั้นเขียนไววา ทานเปนบางครั้งบางคราวเทานั้น เชน เมื่อครั้งหนึ่งรับสั่งใหบาทหลวงเขาเฝา แลว
ตรัสวา “นี่แก ฉันจะเหาะแลวนะ” บาทหลวงทูลวา “ไมเชื่อ” ทานก็วา “ฮื้อ ไอนี่ ขัดคอซะเรื่อย” (หัวเราะ) แลวก็ไลออกไปไมไดเฆี่ยนตีอะไร
คือบาทั้ง 24 ชั่วโมงนั้นไมใช แคเปนบางครั้ง นี่เปนขอเท็จจริง แตผมไมเขียน ถาเขียนแลวเปนผลรายตออนาคต ผมไมเขียน”
2
รัชกาลที่ 1 : ผูสถาปนาราชวงศจักรีดวยชีวิตของกษัตริยผ ูกูชาติ
เมื่อรัชกาลที่ 1 ยายเมืองหลวงมาอยูที่กรุงเทพแลว ก็พยายามทุกวิถีทางที่จะทําใหผูอื่นเขาใจวาตนเองไมมี
ขอบกพรอง ไมเคยกระทําสิ่งใดผิดพลาด เปนเอกบุรุษที่อุดมสมบูรณไปดวยบุญญาบารมีและบริสุทธิ์กวาผูอื่นทั้ง
แผนดิน เพื่อใหสมกับที่ตนเองไดเปนพระโพธิสัตวและเทวดาแลว โดยเสแสรงทําเปนลืมไปวา ในโลกแหงความ
เปนจริงพระองคมิไดวิเศษกวาบุคคลอื่น ตรงที่เปนมนุษยเดินดินกินขาวแกงเหมือนกัน และที่สําคัญทําเปนจําไมได
วากอนหนานี้พระองคก็เปนสามัญชน ที่มิไดมีเลือดสีน้ําเงิน แมพอจะไดชื่อวาเปนขุนนางก็จัดอยูในชั้นปลายแถว
แมก็เปนเพียงหญิงเชื้อสายจีนพอคา1 มิไดเลิศเลอไปกวาประชาชนสวนใหญที่ตนเหยียดหยามเปนไพรราบพลเลว
เลย
จุดบอดที่รัชกาลที่ 1 เห็นวาสรางความอัปยศใหแกตนเองมากคือ ความปราชัยในการรบกับอะแซหวุนกี้ที่พิษณุโลก
ในรัชกาลพระเจาตากสิน การรบคราวนั้น ศาสตราจารย ขจร สุขพานิช สรุปจากพงศาวดารที่แตงโดย Sir Arthur
Phayre และจากจดหมายเหตุความทรงจําของกรมหลวงนรินทรเทวี (นองสาวรัชกาลที่ 1) เอง ไดความวา แมอะ
แซหวุนกี้รบชนะเมืองพิษณุโลกที่มีรัชกาลที่ 1 เปนแมทัพฝายไทย แตก็ถูกกองทัพของพระเจาตากสินหนุนเนื่อง
ขึ้นมาโจมตีจนแตกพายยับเยิน จดหมายเหตุความทรงจํากรมหลวงนรินทรเทวี (เพิ่งถูกคนพบสมัย รัชกาลที่ 5)
บันทึกวาฝายไทยสามารถ “จับไดพมาแมทัพใหญ ไดพมาหลายหมื่น พมาแตกเลิกทัพหนีไป” หลักฐานฝายพมา
ปรากฏวา อะแซหวุนกี้ถึงกับถูกกษัตริยพมาถอดจากยศ “หวุนกี้” และเนรเทศไปอยูที่เมืองจักกายดวยความอัปยศอด
สู2 ทั้งที่อะแซหวุนกี้เคยไดรับการยกยองในฐานะวีรบุรุษที่รบชนะกองทัพจีนมาแลวก็ตาม
หลังจากที่ปราบดาภิเษกสําเร็จและปลงพระชนมพระเจาตากสินรวมทั้งขุนนางฝายตรงขามไปกวา 50 ชีวิตแลว ครา
ใดที่ระลึกถึงเหตุการณที่เมืองพิษณุโลก หัวใจก็เหมือนถูกชโลมดวยยาพิษ ใจหนึ่งนั้นแสนจะอัปยศอดสูที่ตองลา
ทัพหนีพมา อีกดานก็ริษยาพระเจาตากสินที่สามารถปราบกองทัพพมาที่มีขนาดใหญที่สุดในสมัยกรุงธนบุรี และกํา
หราบอะแซหวุนกี้ที่เอาชนะทั้งกองทัพจีนและพระองคมาแลว พระองคจึงใชเลหเพทุบายบังคับใหอาลักษณแกไข
ประวัติศาสตรทุกฉบับ บิดเบือนวาอะแซหวุนกี้มิไดรบกับพระเจาตากสิน แตตองถอยทัพไป เพราะกษัตริยพมามี
หมายเรียกตัวกลับบาน3 พงศาวดารฉบับราชหัตถเลขาถึงกับบิดเบือนวา พออะแซหวุนกี้กลับพมาก็ไดรับบําเหน็จ
รางวัลจากกษัตริยพมาในฐานะที่ปราบหัวเมืองเหนือของไทยไดสําเร็จ4 เพื่อใหประชาชนเขาใจวาอะแซหวุนกี้นั้น
มิใชยอยๆ หาไมแลวที่ไหนเลยจะเอาชนะรัชกาลที่ 1 ได จึงมิใชเรื่องอับอายเลยที่รัชกาลที่ 1 รบแพอะแซหวุนกี้
พงศาวดารฉบับพระนพรัตนถึงกับบันทึกไวอยางนาขบขันวา รัชกาลที่ 1 ไดสําแดงความเปนเสนาธิการชั้นเซียน
เหยียบเมฆ ดวยการแตงอุบายใหเอาพิณพาทยขึ้นตีบนกําแพงลวงพมาเหมือนขงเบง ตีขิมลวงสุมาอี้ในเรื่องสามกก
แลวรัชกาลที่ 1 ก็ชิงโอกาสตีแหกทัพพมาที่ลอมเมืองพิษณุโลกหนีออกมาได ก็ขนาดเรื่องใหญเชนนี้รัชกาลที่ 1 ยัง
กลาใหอาลักษณบิดเบือนกันถึงเพียงนี้ ทํานองเดียวกับเหตุการณที่อะแซหวุนกี้ขอดูตัวเจาพระยาจักรีนั้นก็กลาวได
วาเปนความเท็จอีกเชนกัน เพราะจะมีแมทัพชาติไหนกันที่จะขอดูตัวแมทัพอีกฝายหนึ่งเพื่อสรรเสริญวา เกงกาจ
สามารถเปนเยี่ยม เนื่องจากการทําเชนนี้ยอมทําลายขวัญสูรบของทหารฝายตนใหพังพินทไป อาจารย นิธิ เอียวศรี
วงศ วิจารณไวชัดเจนวา
3
“ถาจะมองจากกฎหมายของไทยและพมาแลว ถาพระยาจักรีและอะแซหวุนกี้เจรจากันดังที่ศักดินาจักรีอวดอาง
แลว ทั้ง 2 ฝายนาจะมีความผิดถึงขั้นขบถเลยทีเดียว5 ทั้งนี้เปนไปตามกฎมณเฑียรบาล กฎหมายตราสามดวงที่วา
อนึ่ง ผูใดไปคบหาxxxเมืองxxxxราชทูตเจรจาโทษถึงตาย”
สําหรับเรื่องที่มีผูรูเห็นมากมาย รัชกาลที่ 1 ยังกลาใชใหอาลักษณแตงพงศาวดารกลับดําใหเปนขาว ดังนั้นสิ่งที่เปน
เรื่องสวนตัวไมมีผูอื่นรูเห็นดวย เชน เรื่องของซินแสหัวรอทํานายวา พระยาจักรีกับพระยาตากสินจะไดเปนกษัตริย
นั้นจึงวินิจฉัยไดไมยากวา เปนสิ่งที่รัชกาลที่ 1 เสกสรรปนแตงขึ้นมาเอง ซึ่งพวกศักดินาจักรีจะอางไมไดวาเรื่องนี้
เกิดจากคําเลาลือของคนรุนหลัง เพราะรัชกาลที่ 1 เองนั่นแหละที่เปนผูออกปากเลาความใหเจาเวียงจันทรกับพระยา
นครศรีธรรมราชฟงในวัดพระแกว จนกระทั่งมีผูไดยินไดฟงดวยกันหลายคน6 การที่รัชกาลที่ 1 กลาโปปดมดเท็จถึง
เพียงนี้ก็เพราะพระองคกําลังอยูบนบัลลังกเลือดของกษัตริยองคกอน จึงตองลอลวงใหผูอื่นเขาใจวา พระองคมีพระ
ปรีชาสามารถเปนเลิศ มีปญญาอภินิหารกวาผูอื่นในแผนดินรวมทั้งพระเจาตากสินดวย นี่เปนการพยายามสราง
เหตุผลเพื่อรับรองวา การปราบดาภิเษกเปนกษัตริยองคใหมเปนสิ่งที่เหมาะสมที่สุด
ภายในจิตใจลึกๆของ 2 พี่นองคือ รัชกาลที่ 1 กับกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท มีทั้งความพยาบาทชิงชังและ
ความไมพอใจในตัวพระเจาตากสินไมนอย ทั้งที่พระเจาตากสินไดทํานุบํารุงใหพี่นองคูนี้มีอํานาจวาสนากวาขุนนาง
ทั้งหลายในกรุงธนบุรี ที่เปนเชนนี้เนื่องจากวา กรมพระราชวังบวรมหาสุรสีหนาถนั้น เคยถูกพระเจาตากสินโบยถึง
60 ทีเพราะมีพฤติกรรมซุมซาม คลานเขาถึงตัวพระเจาตากสินขณะกรรมฐานอยูที่ตําหนักแพกับสมเด็จพระวันรัตน
(ทองอยู) โดยมิไดตรัสเรียก7 กรมพระราชวังบวรมหาสุรสีหนาถจึงมีจิตอาฆาตแคนเปนหนักหนา สวนรัชกาลที่ 1 ก็
เคยถูกพระเจาตากสินโบยถึง 2 ครั้ง คราวแรกในป 2313 เพราะรัชกาลที่ 1 รบกับเจาพระฝางดวยความยอหยอนไม
สมกับที่เปนขุนนางใหญจึงถูกโบย 30 ที8 และในป 2318 รัชกาลที่ 1 ไดรับคําสั่งใหทําเมรุเผาชนนีของพระเจาตาก
สิน แตเมรุนั้นถูกฝนชะเอากระดาษปดทองที่ปดเมรุรวงหลุดลงหมดสิ้น พระเจาตากจึงวา “เจาไมเอาใจใสใน
ราชการ ทํามักงายใหเมรุเปนเชนนี้ดีแลวหรือ” ทําใหรัชกาลที่ 1 ถูกโบยอีก 50 ที
ความสัมพันธระหวางรัชกาลที่ 1 กับพระเจาตากสินมิไดสิ้นสุดลงเพียงเทานี้ รัชกาลที่ 1 ไดถวายบุตรสาวเปนสนม
ของพระเจาตากสินซึ่ง ศาสตราจารย ขจร สุขพานิช ตั้งขอสังเกตวา สนมพระเจาตากสินผูหนึ่งที่ถูกประหารชีวิต
เพราะมีชูก็นาจะเปนบุตรสาวของรัชกาลที่ 1 นี่เอง9 ดวยเหตุนี้รัชกาลที่ 1 จึงเคียดแคนพระเจาตากสินมาก เมื่อมี
โอกาสคราใดก็จะประณามอยางตรงไปตรงมา คราวหนึ่งถึงกับประณามไวในสารตราตั้งเจาพระยานครศรีธรรมราช
เมื่อป 2327 เพื่อประจานพระเจาตากสินวาเปนผูที่ “กอรปไปดวย โมหะ โลภะ”10
ขอเท็จจริงทางประวัติศาสตรยืนยันวา พระเจาตากสินเปนผูนําในการรวบรวมผูคนที่แตกระส่ําระสาย ในภาวะที่
บานเมืองไมมีขื่อแป อดอยาก และพมาเขากวาดตอนขมเหงผูคนไปทั่ว รวบรวมกําลังทีละนอยรบกับพมาและคน
ไทยขายชาติบางกลุม รบกันหลายสิบครั้ง ผลัดกันแพผลัดกันชนะ จนสุดทายมีกําลังปราบพวกพมาและชิงกรุงศรี
อยุธยากลับคืนมาได จากนั้นก็ปราบกกตางๆจนสามารถรวบรวมเปนประเทศไดอีกครั้งหนึ่ง นี่ยอมหมายความวา
พระเจาตากสินตองมีบุคลิกของความเปนผูนํา มีลักษณะรักชาติ กอรปดวยจิตใจที่กลาหาญดีงาม จึงจะสามารถเปน
ศูนยรวมของชาวไทยในภาวะบานแตกสาแหรกขาด จนสามารถนําชาวไทยไปกอบกูบานเมืองไดสําเร็จในชวงเวลา
เพียงปเดียว
4
ninereigns.pdf (PDF, 1.16 MB)
Use the permanent link to the download page to share your document on Facebook, Twitter, LinkedIn, or directly with a contact by e-Mail, Messenger, Whatsapp, Line..
Use the short link to share your document on Twitter or by text message (SMS)
Copy the following HTML code to share your document on a Website or Blog