This PDF 1.5 document has been generated by Microsoft® Word 2010, and has been sent on pdf-archive.com on 04/07/2016 at 15:34, from IP address 113.53.x.x.
The current document download page has been viewed 1429 times.
File size: 1.29 MB (48 pages).
Privacy: public file
มหัศจรรย์ อัลกุรอานกับการสร้ างมนุษย์
] ไทย – Thai – [ تايالندي
ซารีฟ บินอับดุลลาฏีฟ เจ๊ ะแม
ตรวจทานโดย : ทีมงานภาษาไทยเว็บอิสลามเฮ้ าส์
ที่มา : islamhouse.com
2012 - 1433
اإلعجاز القرآين يف خلق اإلنسان
« باللغة اتلايالندية »
رشيف بن عبداللطيف
مراجعة :فريق اللغة اتلايالندية بموقع دار اإلسالم
املدصدرislamhouse.com :
2012 - 1433
ด้ วยพระนามของอัลลอฮฺ ผู้ทรงเมตตา ปรานีย่ งิ เสมอ
มหัศจรรย์ อัลกุรอานกับการสร้ างมนุษย์
บทนา
คัมภี ร์อัลกุรอานเป็ นวจนะของเอกองค์อัลลอฮ์ สุบหา
นะฮูวะตะอาลา ซึ่งพระองค์ทรงเปิ ดเผยต่อศาสนทูตมูฮัมหมัด
ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม โดยผ่านทางมลาอีกะฮฺ (เทวทูต)
ญิบรี ล (Gabriel) กว่า 14 ศตวรรษมาแล้ วที่เอกองค์อลั ลอฮ์ สุบ
หานะฮูวะตะอาลา ได้ ประทานคัมภีร์อลั กุรอาน ลงมายังมนุษย์
เพื่อให้ เป็ นคัมภีร์แห่งทางนา พระองค์ ทรงเรี ยกร้ องให้ มนุษย์รับ
การชี ้นาสู่สจั ธรรมด้ วยการยึดมัน่ ต่อ คัมภีร์อลั กุรอาน นับตังแต่
้
วาระแรกแห่งการประกาศโองการจวบจนกระทัง่ ถึงวันแห่งการ
ตัดสิน คัมภีร์อลั กุรอานจะยังคงเป็ นทางนาหนทางเดียวสาหรับ
มวลมนุษยชาติ
อัลลอฮ์ สุบหานะฮูวะตะอาลา ทรงตรัสในคัมภี ร์อัลกุ
รอานว่า
َ َ َ َ َ ََََ َ َر ََر
َ ر
َ َ ي َ ر
َ َ َ
َٰ نفسِ ِهم ح
ٱۡلق أ َو لم
ّت يتبّي لهم أنه
اق و ِف أ
ِ ُني ِهم ءايَٰت ِنا ِف ٱٓأۡلف
ِ ﴿س
َ َ َ َ َ ر َ َ َٰ ر
َ
َ
]٥٣ : ﴾ [فدصلت٥٣ ك َشء ش ِهيد
ِ يك ِف بِربِك أنهۥ َع
3
ความว่า “เราจะให้ พวกเขาได้ เห็นสัญญาณทังหลายของเราใน
้
ขอบเขตอันไกลโพ้ น และในตัวของพวกเขาเอง จนกระทัง่ จะเป็ น
ที่ ป ระจัก ษ์ แ ก่ พ วกเขาว่า อัล กุร อานนั้น เป็ นความจริ ง ยัง ไม่
พอเพียงอีกหรื อที่ พระเจ้ าของเจ้ านัน้ ทรงเป็ นพยานต่อทุกสิ่ง ”
(คัมภีร์อลั กุรอาน, ซูเราะห์ฟศุ ศิลตั : อายะฮ์ที่ 53)
คัมภีร์อลั กุรอานที่นามาเปิ ดเผยเมื่อ 14 ศตวรรษที่ผ่าน
มาได้ แจ้ งถึงเหตุการณ์ ที่อยู่เ หนือกฎเกณฑ์ต่างๆ เอาไว้ อย่าง
มากมาย รวมทังความจริ
้
งทางด้ านวิทยาศาสตร์ ที่มนุษย์เราเพิ่ง
ค้ น พบหรื อ ได้ รั บ การพิ สู จ น์ จ ากนั ก วิ ท ยาศาสตร์ แ ละด้ วย
เทคโนโลยีที่ลา้ สมัยในยุคศตวรรษที่ 20 นัน้ มีกล่าวอ้ างอยู่ใน
คัมภีร์อลั กุรอานเมื่อ 1,400 ปี มาแล้ ว ข้ อเท็จจริ งเหล่านี ้เป็ นข้ อ
พิ สู จ น์ ใ ห้ เห็ น ว่ า คัม ภี ร์ อัล กุร อาน คื อ คัม ภี ร์ ที่ พ ระผู้ เป็ นเจ้ า
ประทานลงมาโดยแท้ แน่นอนคัมภี ร์อัลกุรอานไม่ใช่หนังสือ
วิทยาศาสตร์ แต่คมั ภีร์อลั กุรอานก็ได้ ระบุถึงข้ อเท็จจริ งทางด้ าน
วิทยาศาสตร์ ที่ค้นพบด้ วยเทคโนโลยีในยุคศตวรรษที่ 20 เอาไว้
อย่างลึกซึ ้งและรัดกุม
ชี ว วิ ท ยา (Biology)
ถื อ เป็ นแขนงวิ ช าหนึ่ ง ทาง
วิ ท ยาศาสตร์ ที่ ศึก ษาเกี่ ย วกับ สิ่ ง มี ชี วิ ต เรื่ อ งราวต่า งๆ ทาง
4
ชีววิทยามีการกล่าวเอาไว้ อย่างมากมายในคัมภีร์อลั กุ รอานเมื่อ
1,400 ปี มาแล้ ว ซึ่ง มนุษ ย์ เ พิ่ ง ค้ น พบเมื่ อไม่นานมานี ้ เช่น
วิวัฒ นาการของมนุษย์ การกาเนิดมนุษย์ การพัฒ นาตัวอ่อน
ของมนุษย์ และการสร้ างสรรค์เป็ นคู่ เป็ นต้ น ทีนีเ้ รามาลองดู
ตัวอย่างปรากฏการณ์ตา่ งๆ ทางชีววิทยาที่มีการกล่าวเอาไว้ ใน
คัมภีร์อลั กุรอาน
ความขัดแย้ งของทฤษฏีวิวัฒนาการ
- การกาเนิดชีวิต
นับตังแต่
้ ที่ทฤษฏี วิวัฒนาการของชาลส์ ดาร์ วิน ได้ ถือ
กาเนิดขึน้ มา สิ่งสาคัญที่ทาให้ ทฤษฎีนีก้ ลายเป็ นประเด็นหลัก
ในโลกวิทยาศาสตร์ ก็คือตาราของ ชาลส์ ดาร์ วิน ที่เขียนถึงเรื่ อง
“จุดกาเนิ ดของสิ่ งมี ชีวิต” (The Original of Species) ในหนังสือ
เล่มนี ้ ชาลส์ ดาร์ วิน ได้ ปฏิเสธว่า สิ่งมีชีวิตต่างๆ ในโลกมิได้ เกิด
จากการสร้ างสรรค์โดยเอกเทศของพระเจ้ า เขาเชื่อว่าสิ่งมีชีวิต
ทังหลายมี
้
กาเนิดมาจากบรรพบุรุษเดียวกัน แต่วิวฒ
ั นาการไป
ตามกาลเวลาจนมีลกั ษณะที่ตา่ งกัน
5
ทฤษฎี วิวัฒ นาการของดาร์ วิน เป็ นแนวความคิดวัตถุ
นิ ย มที่ ยึ ด ถื อ เป็ นพื น้ ฐานทางวิ ท ยาศาสตร์ ใ นการอธิ บ าย
หลักการของตน ทฤษฎีนี ้อ้ างว่าสิ่งมีชีวิตถือกาเนิดจากสิ่งที่ไม่มี
ชี วิ ต อย่ า งบั ง เอิ ญ แต่ ข้ ออ้ างนั น้ ก็ ต กไปอย่ า งสิ น้ เชิ ง โดย
ข้ อเท็จจริ งที่หนักแน่น กว่าคือจักรวาลถูกสร้ างสรรค์โดยพระผู้
เป็ นเจ้ า พระเจ้ าทรงสร้ างสรรค์จักรวาล และทรงออกแบบแม้
รายละเอี ย ดที่ เ ล็ ก ที่ สุ ด ดัง นั น้ จึ ง เป็ นไปไม่ ไ ด้ เลยที่ ท ฤษฎี
วิวฒ
ั นาการจะอธิบายว่า การกาเนิดของสิ่งมีชีวิตไม่ได้ มา
จากการสร้ างสรรค์ของพระผู้เป็ นเจ้ าแต่เกิดขึ ้นจากเหตุบงั เอิญ
ทฤษฎีของชาลส์ ดาร์ วิน ไม่ได้ มีพื ้นฐานที่เป็ นรู ป ธรรม
ทางวิ ท ยาศาสตร์ และเขาก็ ย อมรั บ ว่ า ยั ง คงเป็ นแค่ เ พี ย ง
“สมมติฐาน” ยิ่งไปกว่านัน้ ตัวดาร์ วินเอง ได้ สารภาพไว้ ในตารา
ของเขาในบทที่ชื่อ “ความยากลาบากแห่งทฤษฎี ” ว่าทฤษฎีของ
เขาไม่สามารถตอบคาถามสาคัญๆ ได้
ดาร์ วิน ฝากความหวังของเขาทังหมดไว้
้
กับการค้ นพบ
ของวิทยาศาสตร์ สมัยใหม่ ซึ่งเขาคาดว่าจะเป็ นผู้เฉลย “ความ
ยากลาบากแห่งทฤษฎี” แต่ทว่าการค้ นพบทางวิทยาศาสตร์ ที่ได้
ขยายมิตติ า่ งๆ ได้ กลับกลายเป็ นข้ อโต้ แย้ งสาหรับดาร์ วินไป
6
ข้ อบกพร่องของดาร์ วินในทางวิทยาศาสตร์ อาจจาแนก
ได้ เป็ น 3 ประเด็นดังนี ้
1. ทฤษฎี นี ไ้ ม่ส ามารถอธิ บ ายได้ ว่า ชี วิ ต เกิ ด ขึน้ ได้
อย่างไร
2. ไม่มีการค้ นพบทางวิทยาศาสตร์ ที่สามารถแสดงให้
เห็นว่า “กลไกแห่งการวิวฒ
ั นาการ” ที่เสนอโดย
ทฤษฎีนี ้จะเป็ นไปได้
3. การพิ สู จ น์ ซ ากฟอสซิ ล พบข้ อเท็ จ จริ ง ที่ แ ย้ งกั บ
ทฤษฎีวิวฒ
ั นาการ
ประเด็นสาคัญที่แย้ งทฤษฎีของดาร์ วินคือดาร์ วิน ได้ อิง
ทฤษฎี วิวัฒ นาการของเขาเข้ ากับกลไก “การเลื อกสรรของ
ธรรมชาติ (Natural Selection)” ดังปรากฏเป็ นชื่อในหนังสือ
ของเขาว่า “จุดกาเนิ ดของสิ่ งมี ชีวิต, โดยวิ ธีการเลื อกสรรของ
ธรรมชาติ ” ตามแนวคิดเรื่ องการเลื อกสรรของธรรมชาตินัน้
สิ่ ง มี ชี วิ ต ที่ แ ข็ ง แกร่ ง และเหมาะสมต่ อ สภาพแวดล้ อมของ
ธรรมชาติจงึ จะสามารถมีชีวิตอยูร่ อดได้ ในภาวะการต่อสู้แย่งชิง
การค้ นพบของเกรเกอร์ เมนเดล (Gregor Mendel) ที่
ได้ ชื่อว่า เป็ นบิดาแห่งวิชาพันธุศาสตร์ เกี่ยวกับกฎการถ่ายทอด
7
ทางพั น ธุ ก รรม ได้ รั บ การพิ สู จ น์ โ ดยนั ก วิ ท ยาศาสตร์ ด้ าน
พันธุกรรมในศตวรรรษที่ 20 ได้ ลบล้ างตานานความเชื่อนี ้ไปโดย
สิ ้นเชิง การเลือกสรรของธรรมชาติจึงไม่อาจเป็ นกระบวนการ
ของทฤษฎี วิ วั ฒ นาการได้ ดั ง นั น้ กลไกการเลื อ กสรรของ
ธรรมชาติ จึงไม่มีพลังใดๆ ที่สามารถทาให้ เกิดวิวฒ
ั นาการได้
ดาร์ วินเองก็ตระหนักถึงข้ อเท็จจริ งนี ้เป็ นอย่างดีดงั ได้ กล่าวไว้ ใน
หนังสือ จุดกาเนิ ดของสิ่ งมี ชีวิต ของเขาว่า: “การเลื อกสรรของ
ธรรมชาติ จ ะไม่ มี ผ ลใดๆ จนกว่ า ลั ก ษณะความผั น แปรที ่
เหมาะสมจะบังเอิ ญเกิ ดขึ้น”
จากหลายๆ การพิ สู จ น์ จ ากนั ก วิ ท ยาศาสตร์ ที่
พยายามจะหาข้ อสรุ ปของทฤษฏีวิวฒ
ั นาการ ซึ่งยังไม่มีข้อสรุ ป
ใดที่ มี ค วามชัด เจนหรื อ บ่ง บอกถึ ง ความถู ก ต้ อ งของทฤษฏี
วิวัฒ นาการได้ ซึ่ง ความเห็ น โดยส่ว นใหญ่ มี ค วามคิด เห็ น ว่า
ทฤษฏี วิวัฒ นาการนัน้ ยัง มี ข้อบกพร่ องและไม่ถูกต้ อง ดัง เช่น
คาพูดของนักชีววิทยาหลายๆ ท่าน ที่ได้ ทาการพิสูจน์ในเรื่ อง
วิวฒ
ั นาการ
อเล็กซานเดอร์ โอพาริ น (Alexander Oparin) นัก
ชีววิทยาผู้มีชื่อเสียงชาวรัสเซีย ผู้ที่เริ่ มต้ นศึกษาเรื่ องกาเนิดชีวิต
8
ตามทฤษฎีวิวฒ
ั นาการ เขาได้ พยายามที่จะพิสจู น์ว่าเซลล์ของ
สิ่งมีชีวิตเกิดขึน้ เองได้ แต่ทว่าการศึกษาของเขาก็ดูเหมือนจะ
ล้ มเหลว โดยที่โอพาริ นจาต้ องกล่าวสารภาพว่า “น่าเสี ยดายที ่
ต้นกาเนิ ดของเซลล์นนั้ ดูเหมื อนจะยังคงเป็ นคาถามที ่เป็ นส่วนที ่
มื ดมนทีส่ ดุ จริ งๆ ในทฤษฎี วิวฒ
ั นาการ”
ดีเรค วี เอเกอร์ (Derek V. Ager) นักชีววิทยาชาว
อังกฤษ เป็ นนักวิวฒ
ั นาการคนหนึ่ง เขากล่าวว่า “สิ่ งที ่ประจักษ์
ก็ คื อ เมื ่ อ เราตรวจสอบซากฟอสซิ ล โดยละเอี ย ดไม่ ว่ า จะใน
ระดับชัน้ หรื อชนิ ด เราจะพบซ้ าแล้วซ้ าเล่าว่า ไม่ได้มีวิวฒ
ั นาการ
อย่างค่อยเป็ นค่อยไป แต่เป็ นการกาเนิ ดของสิ่ งมี ชีวิตกลุ่มหนึ่ง
พร้อมกับการสิ้ นสุดของสิ่ งมี ชีวิตอีกกลุ่มหนึ่ง”
ดักลาส ฟูตยู าม่า (Douglas J. Futuyma) นักชีววิทยา
ด้ า นการวิ วัฒ นาการ ยอมรั บ ความจริ ง ข้ อ นี ว้ ่ า “ข้ อ โต้ แ ย้ ง
ระหว่างการกาเนิ ดกับการวิ วฒ
ั นาการนัน้ พูดกันมามากแล้วใน
การอธิ บ ายการก าเนิ ด สิ่ ง มี ชี วิ ต สิ่ ง มี ชี วิ ต ที ่อุบัติ ขึ้ น ในโลกมี
พัฒนาการที ่สมบูรณ์ แบบหรื อยังบกพร่ องอยู่ หากยังบกพร่ อง
อยู่ก็จะต้องมี กระบวนการพัฒนาจากรุ่ นก่ อนโดยกระบวนการ
9
pdf (PDF, 1.29 MB)
Use the permanent link to the download page to share your document on Facebook, Twitter, LinkedIn, or directly with a contact by e-Mail, Messenger, Whatsapp, Line..
Use the short link to share your document on Twitter or by text message (SMS)
Copy the following HTML code to share your document on a Website or Blog